- อย่างทราบกันกลุ่ม Tech ขายตัวรวดเร็วมาจาก 20% > 30% ของตลาด
- Sector ที่ถูกเบียด ลดบทบาทลงไปคือ Financial (16% > 10%) ซึ่งลดลงเรื่อยมาตั้งแต่หลัง Financial Crisis 2008
- กลุ่ม Energy ก็ลดสัดส่วนลงอย่างมีนัยยะ (7% > 3%!!!) เนื่องจากอัตราการเติบโตที่ยากขึ้นเรื่อยๆ
- กลุ่ม Telco (โทรคมนาคม สื่อสาร) ถูกยุบหายไปตอนปี 2017
- Health Care ทรงตัวที่ 15% เมื่อเทียบกับ SET ที่มีกลุ่มนี้ ~ 5%
ผลของการเปลี่ยนแปลง มีดังนี้
สัดส่วนของ Sector ต่างๆ ใน S&P500 ตั้งแต่ช่วง Financial Crisis มีการเปลี่ยนแปลงมีนัยสำคัญ สรุปได้ ดังนี้
- ตลาดหุ้น US สามารถทนทานต่อวัฎจักรเศรษฐกิจได้มากขึ้น ไม่พึ่งพากลุ่มพลังงานที่มาๆไปๆ เป็นรอบๆ
- ในขณะเดียวกัน ตลาดก็ดูมีความแพงแทบตลอดเวลา เพราะ PE กลุ่ม Tech สูงกว่ากลุ่มอื่นๆ มาก
- บริษัทในตลาด US มีการสร้างรายได้จากผู้ใช้นอกประเทศมากขึ้นโดยเฉลี่ย (40 > 54%)
หากลองเปรียบกับตลาดหุ้นไทย ที่ยังมี Energy สูงถึง 21% /Financial ที่ทยอยหดตัวลง (11 > 8%)/ในขณะที่ Tech Sector จริงๆ ยังไม่เกิด/ หุ้น Health ที่เต็มมูลค่าตลอดเวลา … แล้วตลาดไทยเราจะไปทางไหนกันดี ครับ