Investment

ทำไมตลาดหุ้น US ถึงมีเสถียรภาพ ?

ทำไมตลาดหุ้น US ถึงมีเสถียรภาพ ?จริง ๆ จะเรียกว่ามั่นคงก็ดูสวยงามเกิน ผมขอเรียกว่า “ห้ามพัง” จะดีกว่า ด้วยเหตุผลดังนี้ – ชาวอเมริกันลงทุนในตลาดหุ้นทั้งทางตรงและอ้อมกว่า 52% ของจำนวนประชากร (ไทยอยู่ที่แถว ๆ 10%)– ความมั่งคั่งและชีวิตวัยเกษียณถูกผูกไว้กับตลาดหุ้นอย่างมีนัยยะ – บรรยากาศเรื่องการ”ต้องศึกษาการลงทุน” จึงถูกสอดแทรกในสังคมอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้– เมื่อต้องลงทุนและบางส่วนถูกบังคับลงทุนระยะยาว จึงเกิด “ความมั่นคงของตลาดทุน”– เมื่อตลาดทุนมั่นคง บริษัทจดทะเบียน ก็แข็งแกร่ง สามารถระดม “ทุนที่มีคุณภาพ” ได้ – บริษัทแข่งขันได้ ก็ขยายธุรกิจ ทำกำไรได้ เรียกความมั่นใจ นักลงทุนเพิ่มได้อีก – บริษัทใหม่ ๆ ก็อยากเข้าไประดมทุนมากขึ้น ไม่ต้องใหญ่มาก เช่น Startup ต่างๆ ก็ได้รับโอกาสเร็วขึ้น พัฒนา Product ออกสู่ตลาดได้เร็วขึ้น– เมื่อภาคธุรกิจเข้าไปอยู่ในตลาดมากขึ้น ก็สามารถสร้างแรงกดดันให้ รัฐบาลมีทิศทาง เอื้อเฟื้อธุรกิจมากขึ้น เพราะมันเสริมความสามารถด้านการแข่งขันกับนานาประเทศ– นักการเมืองที่เข้ามา ก็ต้องสนใจตลาดทุนมากขึ้น เพราะนั่นคือ การสร้างความมั่งคั่งให้ประชาชน ไม่ต้องแจกเงินเข้าบัญชี – เมื่อการเมือง เศรษฐกิจ มีเสถียรภาพ ประชาชนเห็นอนาคต ก็มั่นใจลงทุนเพิ่มเติมต่อ  อ่านมาถึงตรงนี้ นักลงทุนหลายท่านคงพอเห็นภาพว่า ผู้นำประเทศ (US) ที่ดูแล้ว บ้า ๆ บอ ๆ ทำไมถึงยังอยู่ได้ จะถอดหน้ากาก จะทวีต อะไรก็ได้ ตราบใดที่ทำให้คนรวยขึ้น เพราะตอนเฮียทรัมป์เริ่มบริหาร S&P500 อยู่ที่ 2,100 จุดเอง (+60%)

ทำไมตลาดหุ้น US ถึงมีเสถียรภาพ ? Read More »

S&P500 หลัง Crisis หน้าตาเปลี่ยนไปอย่างไร ?

อย่างทราบกันกลุ่ม Tech ขายตัวรวดเร็วมาจาก 20% > 30% ของตลาด Sector ที่ถูกเบียด ลดบทบาทลงไปคือ Financial (16% > 10%) ซึ่งลดลงเรื่อยมาตั้งแต่หลัง Financial Crisis 2008 กลุ่ม Energy ก็ลดสัดส่วนลงอย่างมีนัยยะ (7% > 3%!!!) เนื่องจากอัตราการเติบโตที่ยากขึ้นเรื่อยๆ กลุ่ม Telco (โทรคมนาคม สื่อสาร) ถูกยุบหายไปตอนปี 2017 Health Care ทรงตัวที่ 15% เมื่อเทียบกับ SET ที่มีกลุ่มนี้ ~ 5% ผลของการเปลี่ยนแปลง มีดังนี้ สัดส่วนของ Sector ต่างๆ ใน S&P500 ตั้งแต่ช่วง Financial Crisis มีการเปลี่ยนแปลงมีนัยสำคัญ สรุปได้ ดังนี้ ตลาดหุ้น US

S&P500 หลัง Crisis หน้าตาเปลี่ยนไปอย่างไร ? Read More »